ขอนแก่นเมืองแห่งการเรียนรู้ จัดกิจกรรมท่องเที่ยว 4 ชุมชน 4 มุมเมืองนครขอนแก่น เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชน ย้อนชมบรรยากาศเมืองเก่า ชมวัฒนธรรมการแสดงฟ้อนเตี้ย และตื่นตาตื่นใจกับพื้นที่ชนบทกลางเมือง


โครงการวิจัยการยกระดับและขับเคลื่อนขอนแก่นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ชาญฉลาด สู่เมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลก ด้วยการสนับสนุนทุนจากกองทุนส่งเสริม ววน. และหน่วย บพท. ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น ดัน 4 ชุมชนเมือง เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หวังกระตุ้นคนขอนแก่นศึกษาเรียนรู้จังหวัดของตนเอง พร้อมยกระดับแหล่งเรียนรู้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต

วันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม 2568 โครงการวิจัยการยกระดับและขับเคลื่อนขอนแก่นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ชาญฉลาด สู่เมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลก ได้จัดการท่องเที่ยว 4 ชุมชน ในเทศบาลนครขอนแก่น คือ ชุมชนโนนชัย ชุมศรีฐาน ชุมชนโนนทัน และชุมชนหนองใหญ่ นำเที่ยวโดย บริษัท วินวิน สมาย จำกัด

โดยเริ่มที่ วัดโนนชัยวนาราม ชุมชนโนนชัยเมืองโบราณยุคทวาราวดี เมื่อมาเยือนถึงชุมชนโนนชัยแล้ว เข้าไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพระสุกจำลอง พระ 3 พี่น้อง พระสุก-พระเสริม-พระใส พระพุทธรูปองค์สำคัญของอาณาจักรล้านช้าง ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดโนนชัยวนารามเพื่อความเป็นสิริมงคล ชมโบราณวัตถุที่ขุดพบในชุมชนโนนชัย ซี่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,400 ปี และมีอายุร่วมสมัยกับบ้านเชียงจังหวัดอุดรธานี ไม่ว่าจะเป็น ลูกปัดโบราณ กระดึงสำริด กำไลสำริด ภาชนะดินเผาเคลือบน้ำดินสีแดงขัดมัน เครื่องประดับเปลือกหอย ลูกกลิ้งดินเผา รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้สำริดและเบ้าหลอม

จากนั้นนั่งรถไปที่ ศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์ ความโดดเด่นของที่นี่คือการรวมกลุ่มของชาวบ้านในชื่อ “ศูนย์เกษตรจัดการขยะอินทรีย์” ได้รวมตัวกันจัดการขยะในชุมชนทั้งขยะเปียก ขยะรีไซเคิล โดยใช้พื้นที่ส่วนตัว 1 ไร่ 2 งาน ทำเป็นศูนย์เรียนรู้ ทำให้เห็นว่าขยะอินทรีย์มีประโยชน์ นำมาหมักทำเป็นดินปลูก ทำให้พืชผักในสวนงอกงาม เก็บมาเป็นอาหาร ลดภาระรายจ่ายด้านอาหารได้บ้าง ทำให้ที่นี่ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เป็นตัวอย่างให้ชุนชนอื่นได้นำไปขยายต่อเพื่อลดขยะ นอกจากการนำเศษอาหารมาหมักเป็นปุ๋ยแล้วยังมีการผลิตสินค้าจากของเหลือใช้และขยะมูลฝอย เช่น กระเป๋าจากไวนิลที่ไม่ใช้แล้ว ดอกไม้จากซองปรับผ้านุ่ม ไม้กวาดจากขวดพลาสติก เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มของศูนย์การเรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์ นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดกิจกรรม Workshop การทำไม้กวาดจากขวดพลาสติกเหลือใช้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำด้วยตนเองอีกด้วย

หลังจากนั้นเดินทางต่อไปที่ ชุมชนศรีฐาน ชุมชนโบราณใจกลางเมือง วัดจอมศรี สถานที่สำคัญเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2379 ในสมัยนั้นชาวบ้านในชุมชนศรีฐานช่วยกันก่อสร้างขึ้น การขุดเตรียมพื้นที่เพื่อสร้างวัด ทำให้พบโบราณวัตถุหลายชิ้นทั้ง ใบเสมา พระเครื่อง เครื่องปั้นดินเผา และเศียรพระพุทธรูป เป็นต้น สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึงวัด คือ การกราบไหว้สักการะศาลปู่ญาครูจัด ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นผู้ปกปักรักษาให้ชุมชนอยู่เย็นเป็นสุขที่อยู่คู่เมืองคู่ชุมชน ใกล้กันเป็นอาคารจัดเก็บใบเสมาสีชมพู ถือเป็นใบเสมาชิ้นที่สมบูรณ์ที่สุด ถูกจัดเก็บไว้อย่างดีในห้องจัดแสดงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและศึกษาประวัติความเป็นมา ทั่วบริเวณวัดมีต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ที่หาดูได้ยาก ทั้งต้นคิงคาว อายุมากกว่า 100 ปี ขนาดลำต้น 12 คนโอบ พักทานของดีศรีฐาน

แล้วไปต่อกันที่ วัดโพธิ์โนนทัน 1 ใน 4 วัดสำคัญที่สร้างขึ้นในยุคขอนแก่นสร้างบ้านแปลงเมือง และถือเป็นวัดประจำเมือง ชุมชนโนนทันเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญอีกแหล่ง  ใต้ฐานอุโบสถหลังใหม่ขุดค้นพบโบราณวัตถุ อายุราว 2,500 – 1,500 ปี  เช่น เครื่องมือโบราณ และภาชนะดินเผาจำนวนมาก ทางวัดจึงได้รวบรวมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบ เช่น ตราประทับประจำตำแหน่งพระนครศรีบริรักษ์ เสื้อของพระนครศรีบริรักษ์ อดีตเจ้าเมืองขอนแก่น เครื่องมือ-เครื่องใช้ของชาวอีสานในอดีต โดยโบราณวัตถุทุกชิ้นถูกจัดเก็บในตู้ แยกประเภท จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมบริเวณชั้นล่างอุโบสถ ชั้นที่ 2 ของอุโบสถหลังใหม่ มีศาสนวัตถุที่สำคัญ ประกอบด้วยพระประธานที่บรรจุมวลสารจากเศษอิฐของพระธาตุขามแก่นและพระธาตุพนม และยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจาก 4 ประเทศ คือ อินเดีย  พม่า ศรีลังกา ไทย และพระธาตุพระสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ญาติโยมนำมาถวาย และยังมีกระดูกไดโนเสาร์ ที่ญาติโยมจากอำเภอภูเวียงนำมาถวายหลวงปู่พระครูโพธิสารคุณ ชมฟ้อนเตี้ยโนนทัน มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “ ฟ้อนเตี้ยเดือน 5 ” เป็นการละเล่นในเทศกาลสงกรานต์ของชาวบ้านโนนทัน ฟ้อนเตี้ยโนนทันจะมี 4 ลักษณะเด่น คือ กลอนลำ ท่ารำ ดนตรีและการแต่งกาย ซึ่งกลอนลำนี้จะเป็นกลอนสั้น ๆ ร้องตอบโต้กันระหว่างชายหญิง กลอนจะมีความหมายที่ลึกซึ้ง  เนื้อหาจะเป็นการเกี้ยวพาราสี ร้องให้อีกฝ่ายหลงรัก ใช้ภาษาสุภาพ ให้อีกฝ่ายเห็นใจ สนใจ สงสารจนรับรัก เวลาร้องเน้นคำหนักเบาเพื่อให้ผู้ฟังมีความเพลิดเพลินและจดจำได้ง่าย

สุดท้ายเดินทางไปยัง ศาลเจ้าปู่ญาครูเย็น ( หนองใหญ่ ) สำหรับชุมชนหนองใหญ่แล้วชาวบ้านเคารพนับถือเจ้าปู่ญาครูเย็น เป็นหลักบ้าน หลักเมือง ในยุคหลังสงครามอินโดจีน พ.ศ. 2482 เกิดโรคฝีดาษระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ชาวหนองใหญ่ได้รับผลกระทบเหมือนหมู่บ้านอื่นๆ ชาวบ้านจึงบนบานศาลเจ้าปู่ญาครูเย็นไว้ว่า ขอให้อย่าเกิดโรคร้ายแรงกับชาวบ้าน ปรากฏว่าชาวบ้านหนองใหญ่ปราศจากโรคร้ายเป็นเพียงไข้เล็กน้อยก็รักษาหายขาดได้ ทำให้ชาวบ้านเคารพและให้ความเลื่อมใส ไม่ว่าจะเดินทางไกล ทำมาค้าขายก็จะมาขอพรที่นี่ หลังจากนั้นแวะซื้อของกินของฝากที่ชาวชุมชนนำมาขายที่ตลาดแลงหนองใหญ่

สำหรับโครงการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้เมืองขอนแก่น จะมีนักสื่อความหมายและนักจัดการเรียนรู้เป็นชาวชุมชนทั้งสิ้น พร้อมกับนำของดีของฝากของชุมชนที่มีมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วย หากใครสนใจท่องเที่ยว 4 ชุมชนขอนแก่น สามารถติดต่อทางเฟสบุ๊ค เพจ Khon Kaen Learning City เพื่อให้จัดทริปส่วนตัว และจะพัฒนาเป็นทริปที่เปิดขายร่วมกับ Win Win Smile ต่อไป


กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง